Treadwear ตัวเลขสำคัญบนแก้มยางที่บ่งบอกอายุการใช้งานที่คุณควรรู้
เคยสังเกตตัวเลขที่อยู่บนแก้มยางรถยนต์ของคุณหรือไม่? นอกจากขนาดยางแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างที่เรียกว่า Treadwear ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึง "อัตราการสึกหรอของดอกยาง" ที่หลายคนอาจมองข้ามไป บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของตัวเลขนี้และนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อยางได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
Treadwear คืออะไร?
Treadwear คือค่าตัวเลขที่บ่งบอกถึงความทนทานต่อการสึกหรอของดอกยาง โดยเปรียบเทียบจากยางมาตรฐานที่กำหนดให้มีค่า Treadwear ที่ 100 ยางที่ถูกทดสอบแล้วได้ค่าตัวเลขสูงกว่า 100 จะถือว่ามีความทนทานต่อการสึกหรอมากกว่า ในทางกลับกัน ยางที่มีค่าต่ำกว่า 100 ก็จะสึกหรอเร็วกว่า
-
ตัวเลขยิ่งสูง (เช่น 400, 600): แสดงว่ายางนั้นมีความทนทานต่อการสึกหรอสูง ทำให้มีแนวโน้มที่อายุการใช้งานของดอกยางจะยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานทั่วไปและต้องการความคุ้มค่า
-
ตัวเลขยิ่งต่ำ (เช่น 100, 200): แสดงว่ายางนั้นสึกหรอเร็ว มักเป็นยางที่เน้นสมรรถนะสูง (High-Performance) ที่มีเนื้อยางนิ่มกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม แม้จะต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานที่สั้นกว่า
ข้อควรทราบ: Treadwear ไม่ใช่ค่าตายตัว
แม้ว่า Treadwear จะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือค่านี้มาจากการทดสอบในสภาวะที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดบนสนามทดสอบเท่านั้น ในชีวิตจริง อายุการใช้งานของยางขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น:
-
พฤติกรรมการขับขี่: การเร่ง, เบรก, และเข้าโค้งอย่างรุนแรงจะทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น
-
สภาพถนน: การขับขี่บนถนนขรุขระหรือลูกรังเป็นประจำจะทำให้ยางสึกหรอเร็วกว่าถนนเรียบ
-
การดูแลรักษา: การเติมลมยางที่ถูกต้อง การสลับยางตามระยะ และการตั้งศูนย์ล้อจะช่วยยืดอายุการใช้งานยางได้
-
น้ำหนักบรรทุก: รถที่บรรทุกน้ำหนักเกินกำหนดจะทำให้ยางรับภาระหนักเกินไปและสึกหรอเร็วกว่าปกติ
-
สภาพภูมิอากาศ: การขับขี่ในอุณหภูมิที่สูงมากจะทำให้ยางร้อนและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ดังนั้น การเลือกยางจากค่า Treadwear ควรพิจารณาควบคู่ไปกับลักษณะการใช้งานและไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ เพื่อให้ได้ยางที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าที่สุด